Tottori Travel Update Spring 2025 Vol.01
การพบกันของรถจักรไอน้ำกับซากุระ
รถไฟสายท้องถิ่นวาคาซะ (Wakasa Railway) เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างสถานี Koge และสถานี Wakasa ทิวทัศน์สองข้างทางอุดมไปด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย รถไฟสายนี้ให้บริการในฐานะรถไฟท่องเที่ยว และที่สำคัญยังเป็นเส้นทางคมนาคมที่จำเป็นสำหรับชาวท้องถิ่น
สถานี Wakasa ยังคงเป็นอาคารไม้แบบดั้งเดิมตั้งแต่ยุคโชวะตอนต้น และได้รับการออกแบบตกแต่งภายในใหม่โดยเอจิ มิโตโอกะ ภายในสถานีมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น แท่นหมุนรถจักรไอน้ำแบบมือหมุน และ หอจ่ายน้ำ ที่สามารถเข้าชมได้ นอกจากนี้ แม้จะไม่ได้โดยสารรถไฟ ก็สามารถสัมผัสบรรยากาศที่ทันสมัยของสถานีได้
นอกจากนี้ ในฤดูใบไม้ผลิ สถานี Wakasa จะเต็มไปด้วยซากุระที่บานสะพรั่ง ทำให้กลายเป็นจุดถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม ความตัดกันระหว่างรถจักรไอน้ำกับซากุระเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด โดยช่วงเวลาที่ซากุระบานจะอยู่ระหว่าง ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ลองมาชมดอกซากุระที่เมืองวาคาซะกันดูไหม
“โอเลอิน 55” เนื้อวากิวชั้นเลิศ
ที่จังหวัดทตโตะริ มี “ทตโตะริวากิว” ซึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และความมุ่งมั่นของเกษตรกรที่พัฒนาเนื้อวากิวที่มีคุณภาพสูง
ทตโตะริวากิวถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเครียด ทำให้ได้เนื้อแดงและไขมันที่มีสมดุลที่ลงตัว ในบรรดาทตโตะริวากิว มีเนื้อที่ได้รับการรับรองว่า มีปริมาณกรดโอเลอิน (Oleic Acid) มากกว่า 55% และสืบสายพันธุ์จากวัว เคทากะโก เนื้อวากิวชนิดนี้ถูกพัฒนาให้เป็นแบรนด์พิเศษภายใต้ชื่อ “โอเลอิน 55”
ร้านอาหารแนะนำคือ “ทาคุมิ คัปโป” ที่นี่สามารถลิ้มรส “โอเลอิน 55” ได้ในเมนู “ซูซูกินาเบะ” หรือสุกี้น้ำใส ที่ช่วยดึงรสชาติของเนื้อออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ซูซูกินาเบะจะให้รสสัมผัสที่อบอุ่น เนื้อนุ่มละมุน ละลายในปาก และมีรสชาติของน้ำเนื้อที่เข้มข้น
หากมีโอกาส ควรลองสัมผัสรสชาติของ “โอเลอิน 55” สักครั้ง แล้วจะเข้าใจถึงความพิเศษของเนื้อวากิวระดับพรีเมียมนี้
สัมผัสความงดงามของหิมะที่ภูเขาไดเซ็น
กิจกรรมนี้จะพาคุณเดินเล่นบนหิมะนุ่มๆ ท่ามกลางทิวทัศน์สีขาวโพลน ด้วยอุปกรณ์ สโนว์ชู ซึ่งช่วยให้เดินบนหิมะได้ง่าย ไม่ต้องใช้ทักษะพิเศษ จึงเหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้ที่ไม่มีประสบการณ์
เส้นทางเดินอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงจากหิมะถล่มหรือการพลัดหลง โดยมีไกด์คอยนำทางตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ การเข้าป่าช่วงฤดูหนาวจำเป็นต้องมีอุปกรณ์กันหนาว แต่หากไม่มี ก็สามารถเช่าเสื้อผ้าและสโนว์ชูได้
ระหว่างเดินในป่า จะได้สัมผัสกับ ทิวทัศน์หิมะสุดอลังการและแสงแดดที่ส่องลอดผ่านต้นไม้ นอกจากนี้ ยังสามารถลองกระโดดลงบนหิมะนุ่มๆ ค้นหารอยเท้าสัตว์ป่า หรือพักผ่อนด้วยการจิบชาอุ่นๆ บนผืนหิมะ
ลองมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษของฤดูหนาว และเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางหิมะที่น่าตื่นเต้นนี้ดูสักครั้ง
อากาศหนาวแบบนี้ ลองชิมราเม็งสักชามไหม?
ร้าน “อิโนโยชิ (Inoyoshi)” เป็นหนึ่งในร้านราเม็งกระดูกวัวชื่อดังที่ได้รับความนิยมในพื้นที่ตอนกลางของจังหวัดทตโตะริ ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1969 และเป็นร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมากจนแทบไม่มีใครในท้องถิ่นไม่รู้จัก ตั้งอยู่ห่างจากสถานี Kurayoshi ประมาณ 20 นาทีโดยการเดิน ทำให้เดินทางสะดวก ทั้งยังมีลูกค้าจากทั้งในและนอกจังหวัดแวะเวียนมาอย่างต่อเนื่อง
เมนูขึ้นชื่อของร้านคือ ราเม็งกระดูกวัว ซึ่งมีน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกวัวและผักจนได้รสชาติกลมกล่อม หอมเข้มข้น เส้นราเม็งแบบหยักช่วยให้ซุปซึมเข้าเส้นได้ดี ทำให้สามารถสัมผัสรสชาติของน้ำซุปกระดูกวัวได้เต็มที่
ทั้งกระดูกวัวและเส้นราเม็งที่ใช้ในร้านล้วนเป็นวัตถุดิบจากจังหวัดทตโตะริ ลองมาสัมผัสรสชาติความภาคภูมิใจของทตโตะริผ่านราเม็งถ้วยนี้กันดูสักครั้ง
การแข่งขันชักกะเย่อสุดยิ่งใหญ่!
“จินโชะ” คือชื่อของการแข่งขัน “โอโอสึนะฮิกิ” หรือ ชักกะเย่อยักษ์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 4 พฤษภาคมที่มิซาสะออนเซ็น งานนี้เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่และมีเอกลักษณ์ โดยใช้เถาวัลย์ฟูจิคาซูระ มาถักรวมกันเป็นเชือกขนาดมหึมา ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองเส้น ได้แก่ เชือกตัวเมียและเชือกตัวผู้ จากนั้นจึงนำทั้งสองเชือกมาผูกเข้าด้วยกัน แล้วแบ่งผู้เข้าร่วมเป็นสองทีม ได้แก่ ทีมตะวันออกและทีมตะวันตก เพื่อแข่งขันกันอย่างดุเดือด
พิธีกรรมนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สืบทอดกันมายาวนาน
การแข่งขันชักกะเย่อยักษ์ถือเป็น กิจกรรมหลักของเทศกาลฮานะยุ เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นในวันครบรอบแห่งพระยาคุชิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิของมิซาสะออนเซ็น
เชือกที่ใช้ในการแข่งขันมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ โดยมีความยาวถึง 80 เมตร เส้นรอบวงใหญ่สุดถึง 2 เมตร และหนักถึง 2 ตัน ทำให้เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สร้างพลังและความสามัคคีให้กับผู้เข้าร่วมได้เป็นอย่างดี
